วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

จ่อทบทวนไทยนำเข้าขยะพิษ พบ3จ.อีสานเสี่ยงรับสารเคมี
จ่อทบทวนไทยห้ามนำเข้าขยะพิษตามรอยจีนชี้ขอเวลาพิจารณาให้รอบคอบ ขณะที่ สธ.เผยผลคัดกรองคนทำอาชีพแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ 3 จว.อีสาน พบเสี่ยงรับอันตรายจากสารเคมี 33.94%
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงอุตสาหกรรม  เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างพิจารณาความจำเป็นในการอนุญาตนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ตามอนุสัญญาบาเซล  โดยเฉพาะประเด็นความสามารถในการรีไซเคิลและกำจัดซากอิเล็กทรอนิกส์ของโรงงานที่ได้รับอนุญาตตามอนุสัญญา เป็นไปตามมาตรฐานหรือมีปัญหามากน้อยแค่ไหน เนื่องจากที่ผ่านมาแม้โรงงานได้รับใบอนุญาตแล้ว แต่หลายโรงงานก็ได้ทำผิดเงื่อนไข เช่นนำซากอิเล็กทรอนิกส์ไปส่งต่อให้โรงงานแห่งอื่นที่ไม่ได้รับใบอนุญาต  ล่าสุดมีโรงงานทีได้รับอนุญาตรีไซเคิล 7แห่งถูกพักใบอนุญาตไปถึง 5 แห่ง มีโรงงานเพียง2 แห่ง คือ บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์  บริษัทหมิง เอ็นจิเนียริ่ง  (ไทยแลนด์) และบริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ อีโค-แมนูแฟคเจอริ่งเท่านั้นที่ทำถูกต้อง หากได้ข้อสรุปแล้วจะนำเสนอนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เพื่อพิจารณาต่อไป

ตอนนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรม อยู่ระหว่างพิจารณาถึงความจำเป็นในการอนุญาตนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ เข้ามากำจัดในประเทศว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน เพราะเกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายจึงต้องคิดอย่างรอบคอบ มีทั้งโรงงานที่ทำถูกต้องแต่โรงงานที่ทำไม่ต้องก็มีจำนวนมาก คาดว่า จะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้  นอกจากนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการพิจารณาบทลงโทษผู้กระทำผิดตามกฎหมายทั้งพ.ร.บ.โรงงานพ.ศ. 2535 ที่มีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาทหรือจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายตามพ.ร.บ.วัตถุอันตราย ปี 2535ของกรมโรงงานฯที่มีโทษปรับ 2 แสนบาท หรือ จำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือ ทั้งจำทั้งปรับ สำหรับโรงงานที่นำไปกำจัดขยะอุตสาหกรรมแบบผิดวิธีเนื่องจากหลายฝ่ายมองว่าเป็นโทษที่เบาเกินไป เมื่อเทียบกับผลกระทบที่เกิดขึ้น

ด้านนายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม  กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจโรงงาน คัดแยกขยะและรีไซเคิล ที่เกี่ยวข้องกับ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แล้ว 80%  จากทั้งหมด  148  โรงงาน มีโรงงานผิดกฎหมายประมาณ 10 % คาดว่าภายในกลางเดือนมิ.ย.จะตรวจสอบแล้วเสร็จทั้ง 148 โรงงาน และได้วางแผนระยะยาวเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบทั้งการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่ด่านศุลกากรและสั่งให้กรมโรงงานในพื้นที่ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบโรงงานกำจัดซากขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศ

นพ.สมเกียรติ  ศิริรัตนพฤกษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการคัดกรองความเสี่ยง จากการทำงานของผู้ประกอบอาชีพเก็บ คัดแยก และรีไซเคิลขยะในโครงการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพจากการคัดแยกและรีไซเคิลขยะ ในพื้นที่เสี่ยงสูงเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพประชาชน ปีงบประมาณ 2559 ของสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ใน 3 จังหวัดคือ กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี มีคนทำอาชีพดังกล่าว 607 ราย และพบได้รับความเสี่ยงจากการคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยได้รับการสัมผัสสารเคมีจากการหายใจการกิน ทางผิวหนังในขณะทำงาน 206 ราย คิดเป็น 33.94 เปอร์เซ็นต์



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น